2552/08/25

หมูสะเต๊ะนายซ้ง

ร้าน "หมูสะเต๊ะนายซ้ง" ซึ่งตั้งขายอยู่ตรงจุฬา ซ.8 ตรงข้ามร้านสมบูรณ์โภชนากัน หมูสะเต๊ะเจ้านี้ได้รับคำร่ำลือว่าหมูสะเต๊ะนั้นเนื้อนุ่ม และน้ำจิ้มก็รสเด็ดเข้มข้น จึงต้องมาลอง ลิ้มพิสูจน์รสชาติให้รู้แก่ปาก



เมื่อมาถึงยังร้านจะเห็นเตาปิ้งหมูสะเต๊ะส่งกลิ่นหอมควันโขมงอยู่หน้าร้าน มีเจ้าของร้านคือ "เจ๊นี้" นราทิพย์ เลิศฤทธิ์จรัสกิจ ยืนปิ้งหมูสะเต๊ะบน เตาถ่านร้อนๆ อย่างขะมักเขม้น ซึ่งหมูสะเต๊ะของที่นี่จะเน้น ไม้ใหญ่และเป็นไม้กลมๆ ไม่แบน ราคาจึงขายอยู่ที่ไม้ละ 6 บาท อาจจะดูว่าแพง แต่ว่าคุณภาพและรสชาติคุ้มราคา

หมูสะเต๊ะปิ้งร้อนๆ บนเตาถ่าน
เพราะว่าทางร้านเลือกสรรคัดแต่ของดีมาทำเป็นหมูสะเต๊ะ อย่างหมูเลือกใช้หมูเนื้อสันนอก แล้วนำ มาหมักกับนมสด เพื่อให้หมูนุ่ม และเด็ดไม่เหมือนร้านไหนก็คือจะหมักด้วยสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้ และใบมะกรูดด้วยเพิ่มรสชาติและความหอมให้หมู และหมักใส่ผงกะหรี่ นำมาเสียบไม้แบบอัดแน่นไม้กลมใหญ่

แล้วเวลานำมาย่างบนเตาถ่าน พร้อมกับเวลาปิ้งจะพรมด้วยน้ำกะทิด้วยเพิ่มความหอมนุ่มเข้าไปอีก ทำ ให้ได้หมูสะเต๊ะร้อนๆ ที่กินแล้วเนื้อนุ่มหวานไม่ค่อยติดมัน ได้รสชาติเครื่องหมักกำลังดี จิ้มกินกับน้ำ จิ้มหมูสะเต๊ะสูตรเด็ดที่ทางร้านทำเอง โดยนำเครื่องแกงแดงมาผัดกับหัวกะทิให้หอม แล้วเติมกะทิ และใส่ถั่วตัดป่นได้รสชาติน้ำจิ้มที่เข้มข้นหวานมันถูกปากดี และแกล้มด้วยอาจาดที่ใส่แตงกวา หอมแดง และพริกชี้ฟ้า รสหวานอมเปรี้ยวแก้เลี่ยนได้ดี

หมูสะเต๊ะนายซ้งอีกหนึ่งร้านหมูสะเต๊ะเจ้าเด็ด
หากใครเริ่มน้ำลายสอที่มุมปาก แล้วนึกอยากกินหมูสะเต๊ะปิ้งร้อนๆ รสชาติดีขึ้นมาบ้างแล้ว ก็ตรงมา ลองลิ้มรสชาติกันได้ที่ร้าน "หมูสะเต๊ะนายซ้ง" อ้อ!! ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่มีโต๊ะให้นั่งกินนะจ๊ะ ต้องซื้อใส่ถุงกลับบ้านอย่างเดียว

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "หมูสะเต๊ะนายซ้ง" ตั้งอยู่ที่ 895/4 จุฬาซอย 8 ถ.บรรทัดทอง ปทุมวัน กทม. การเดินทางจากสี่แยกเจริญผล วิ่งตรงมาถ.บรรทัดทอง ตรงมาจนถึงจุฬา ซ. 8 แล้วเลี้ยวเข้ามาในซอยจะเห็นร้านหมูสะเต๊ะ นายซ้งตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านสมบูรณ์โภชนา มีป้ายร้าน และเตาปิ้งหมูสะเต๊ะเป็นจุดสังเกต เปิดอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 16.00-21.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ โทร. 0-2216-7998, 0-8929-8931, 0-86544-9779

2552/08/09

สวนอาหารบางบัว


บนเนื้อที่กว้างขวางกว่า 4 ไร่ บางบัวเปิดให้บริการมาได้ 21 ปีแล้ว ในบรรยากาศสวนอาหารที่มีทั้งส่วนของสวนลานน้ำพุและส่วนของห้องแอร์ อีกทั้งยังมีส่วนของห้องจัดเลี้ยงที่สามารถเพิ่มเติมบริการคาราโอเกะได้ด้วย โดยอาหารของที่นี่จะเน้นอาหารไทยเป็นหลัก แต่ก็มีอาหารจีน และอาหารทะเลให้เลือกด้วยเช่นกัน
สำหรับอาหารจานแรกที่ "ตระเวนกิน" สั่งมาลิ้มลองก็คือ ซี่โครงหมูสับผัดกะเพรา (100 บาท) เสิร์ฟมาหน้าตาเหมือนหมูสับทั่วไป แต่เมื่อได้เข้าปากเคี้ยวจะได้ความกรุบๆของซี่โครงหมูกระดูกอ่อนที่สับมา อย่างละเอียดเคี้ยวกินได้ทั้งหมดไร้ซึ่งกระดูก ผัดกับใบกระเพรา พริก กระเทียม หอยฉุยเผ็ดจัดจ้านอาหารไทย

ตามมาด้วย ปลาคังทอดกระเทียมพริกไทย (180 บาท) ปลาคังที่ใช้เป็นปลาคังสดๆ นำมาล้างทำความสะอาดเอาไส้ออกเรียบร้อย แล้วนำเครื่องผัดเช่นกระเทียม พริกขี้หนู และส่วนผสมของทางร้านลงไปผัดก่อน จากนั้นนำเนื้อปลาคังที่หันเป็นชิ้นๆไปทอดพอสุกแล้วนำไปผัดคลุกเคล้ารวมกับ เครื่องให้เข้าถึงเนื้อปลา เมื่อกินแล้วเนื้อปลาจึงกรอบนอกนุ่มใน เคี้ยวหอมกลิ่มกระเทียม

ปลาคังทอดกระเทียมพริกไทย
จานถัดมาเป็น ห่อหมกทะเลผัดเผ็ด (100 บาท) ใช้เนื้อห่อหมกที่ทำจากปลากราย และเครื่องแกงสูตรพิเศษของทานร้าน นำมาผัดใส่ปลาหมึก เนื้อปลากะพง กุ้ง รองจานด้วยใบยอและกะหล่ำซอย ออกมาในรูปแบบผัดรสชาติเหมือนห่อหมกแต่จะออกแห้งๆมันๆ เล็กน้อยและไม่เผ็ดมาก

ห่อหมกทะเลผัดเผ็ด
อาหารจานต่อมาได้แก่ ลาบปลาตะเพียน (100 บาท) ทางร้านนำปลาตะเพียนทั้งเนื้อและก้างมาสับละเอียดผสมเนื้อหมูสามชั้นที่หั่น เป็นชิ้นเล็กๆ ส่วนพริกทำลาบสั่งตรงมาจากเชียงใหม่รสชาติไม่เผ็ดมาก เคี้ยวกรุบกรอบด้วยหมู 3 ชั้น เสิร์ฟมาพร้อมน้ำซุปไข่ปลาตะเพียนที่ล้างทำความสะอาดมาอย่างดี ไม่คาว ใส่ตะไคร้ใบมะกรูดคล้ายเครื่องต้มยำน้ำใส รสชาติออกเปรี้ยวเล็กน้อย เนื้อไข่ปลานุ่มไม่เหนียวเคี้ยวหนับปาก และมีผักทานเคียงเช่น ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว ใบโหระพา กะหล่ำ

ลาบปลาตะเพียน
พุงปลาช่อนผัดกะเพรา (150 บาท) เป็นอาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่น่าลิ้มลอง พุงปลาช่อนที่นี่ทางร้านล้างทำความสะอาดหลายครั้งเพื่อให้สะอาดจริงๆ จากนั้นก็นำมาผัดคล้ายกับผัดกะเพรา แต่เน้นให้รสออกเผ็ดและจัดจ้านเป็นพิเศษเพื่อดับความคาว แต่ขอบอกว่าเคี้ยวจะหนึบหนับมันปากนัก

สลับอารมณ์จากเมนูแห้งๆมามาเป็น เกาเหลาลูกชิ้นเอ็นหมู (120 บาท) ที่เสิร์ฟมาในลักษณะของหม้อไฟ ทางร้านคัดสรรลูกชิ้นเอ็นหมูคุณภาพดีใช้เนื้อหมูล้วนๆ มาลวกใส่ถั่วงอก หมูสับ กระเทียม ผักบุ้ง และน้ำซุปที่ใช้ซุปกระดูกหมูจึงหวานน้ำซุป เคี้ยวกรึบกรุบลูกชิ้นเอ็น

พุงปลาช่อนผัดกะเพรา
เมนูสุดท้ายคือ ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่ (180 บาท) ใช้ซี่โครงหมูเนื้อๆ เยื่อไผ่แท้ๆคัดคุณภาพ เห็ดหอมอย่างดี มาตุ๋นกับเครื่องยาจีนในน้ำซุปกระดูกหมูที่ปรุงรสโดยใส่ซีอิ้วขาว ตุ๋นทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นใช้ได้ รสชาติน้ำซุปหอมเข้มข้น เนื้อหมูเปื่อยนุ่มเคี้ยวง่าย เยื่อไผ่เคี้ยวนุ่มกำลังดี

ไม่เพียงเท่านั้นสวนอาหารบางบัว ยังมีอีกหลายเมนูรสเด็ดให้ลองลิ้มกันทั้งอาหารไทยและจีน เช่น ยำไก่บ้าน (90 บาท), หน่อไม้ทะเลผัดน้ำมันหอย (250 บาท), แกงคั่วหอยขม (80 บาท), ปูหลน (80 บาท) เป็นต้น และต้องขอบอกไว้อีกอย่างว่าใครที่มาจัดเลี้ยงหรือจะมานั่งกินอาหารเฉยๆหากนำเหล้ามาดื่มทางร้านไม่คิดค่าเปิดขวด

เกาเหลาลูกชิ้นเอ็นหมู
ส่วนในทุกวันศุกร์-เสาร์ บริเวณลานน้ำพุจะมีดนตรีคาราโอเกะเปิดฟรีให้ร้องเพลงกันอย่างเพลิดเพลิน เรียกว่าใครสนใจอาหารและบรรยากาศแบบนี้ สามารถเดินทางไปรับอรรถรสด้วยตัวเองได้ที่ "สวนอาหารบางบัว"

ซี่โครงหมูตุ๋นเยื่อไผ่
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สวนอาหารบางบัว สาขาบางเขน ตั้งอยู่ที่13 ถนนพหลโยธิน บางเขน กทม. การเดินทาง หากมาทางแยกมหาวิทยาลัยเกษตรฯ ตรงมาทางเส้นถนนพหลโยธิน ผ่านมหาวิทยาลัยศรีปทุมทางฝั่งขวา ผ่านกรมทางหลวงชนบท แล้วข้ามสะพานข้ามคลองแล้วชิดซ้าย สวนอาหารบางบัวจะอยู่ทางซ้ายมือ ตรงข้ามกับกรมทหารราบที่ 11 รอ. เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.30-22.30 น. โทร . 0-2551-1793, 0-2552-6088 และสวนอาหารบางบัว สาขาปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ ถนนติวานนท์ ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี โทร.0-2979-6970-1