2552/10/27

อาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ โตเกียว เทเบิล

ร้านอาหารญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจมาแนะนำให้กับสาวกอาหารญี่ปุ่นได้ไปลองลิ้มรสชาติกัน ร้านนี้มีชื่อว่า “โตเกียว เทเบิล” ตั้ง อยู่ย่านเอกมัย ร้านนี้มีความน่าสนใจตั้งแต่บรยากาศร้าน ที่เมื่อเข้ามาแล้วจะสัมผัสได้ถึงความสงบ ไม่วุ่นวาย แถมได้อารมณ์เหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน

มุมเรือนไทยชวนนั่งสบายๆ
เพราะทางร้านได้นำเอาบ้านเก่ามาตกแต่งใหม่ เป็นสไตล์แบบไทยผสมญี่ปุ่น เน้นความเป็นธรรมชาติรายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีส่วนของโต๊ะนั่งให้เอกนั่งได้ตามชอบใจ มีทั้งโซนมุมเรือนไทยด้านหน้าติดแอร์นั่งสบาย ส่วนด้านในตัวบ้านจัดเนโต๊ะเก้าอี้ไม้ดูอบอุ่นนั่งสบาย มีมุมซูชิบาร์บริการด้วย ส่วนด้านบนของบ้านมีห้องส่วนตัวบริการ 3 ห้อง

มาถึงความน่าสนใจของอาหารที่ร้านนี้ให้บริการอาหารญี่ปุ่น ที่โดดเด่นและแตกต่างไปจากร้านอื่นๆ คือบริการอาหารญี่ปุ่นพื้นเมืองแบบต้นตำรับ คัดสรรความหลากหลายของเมนู และการเลือกสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ โดยเฉพาะอาหารทะเลจะสั่งตรงจากชาวประมงที่ประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรียกว่าได้กินความสดเหมือนที่ญี่ปุ่นไม่มีผิดเพี้ยน และนอกจากจะมีอาหารญี่ปุ่นแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารไทยบริการด้วย และมีอาหารแนวฟิวชั่นแปลกใหม่ที่ผสมผสานระหว่างอาหารญี่ปุ่นกับอาหารไทยให้ ลงตัวทั้งรสชาติและสีสันหน้าตา อันถูกปากทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

ปอเปี๊ยะสดโตเกียว เทเบิล
ถึงตรงนี้คงอยากจะรู้แล้วล่ะสิว่าอาหารจานเด่นของที่นี่มีอะไรน่ากิน บ้าง ถ้าอย่างนั้นตามมาเปิดเมนูสั่งอาหารกันได้เลยด้วยจานแรกเป็น ปอเปี๊ยะสดโตเกียวเทเบิล (170 บาท+) เป็นแผ่นแป้งปอเปี๊ยะสดมีไส้กุ้ง ไก้ฉีก ผักเมียวหงะจากญี่ปุ่น ไข่ฝอย แครรอท หัวไชเท้า ผักชี กุ้นฉ่ายขาว ห่อม้วนหั่นมาเป็นชิ้น เคี้ยวปอเปี๊ยะเต็มปากเต็มคำผักสดกรอบ กินกับน้ำจิ้มปอเปี๊ยะรสเด็ดเข้ากัน

เทมปุระทอดรวม
จานต่อมานำเสนอ เทมปุระทอดรวม (180 บาท+ ถ้าสั่งเป็นเซ็ทเพิ่มอีก 80 บาท มีข้าวสวย ซุป ผักดอง ไข่ตุ๋น กับแกล้มอีก 1 อย่าง พร้อมเสิร์ฟชาเขียวฟรีเติมตลอด และมีชาหรือกาแฟให้เลือก) เทมปุระรวมจานนี้มีกุ้ง ปลากะพง ผักต่างๆ ชุบแป้งที่ปรุงเป็นพิเศษ แล้วลงทอดในน้ำมันใหม่ๆ ทำให้เทมปุระของที่นี่เคี้ยวกรอบนุ่ม ไม่อมน้ำมัน

บะหมี่เย็นต้มยำ
ตามมาด้วยเมนูจานเส้นอย่าง บะหมี่เย็นต้มยำ (150 บาท+ เป็นเซ็ทเพิ่มอีก 80 บาท มีข้าวสวยหรือข้าวผัด มีสลัดปลาดิบ อาหารย่าง ) บะหมี่เย็นต้มยำเมนูนี้เป็นแบบแห้งขลุกขลิก เส้นบะหมี่เหลืองเส้นกลม เอามาผสมกับน้ำปรุงต้มยำที่ปรุงมาจากญี่ปุ่นเป็นพิเศษ ใส่แตงกวา แครอท ไข่เจียว และไก่ฉีก เวลากินคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ม้วนเส้นหมี่ส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มหอมกลิ่นต้มยำอ่อนๆ และได้รสชาติต้มยำที่กลมกล่อม ไม่ได้เผ็ดจัดจ้านมากแบบไทยๆ

บาราชิราชิ
ต่อด้วยข้าวหน้าปลาดิบรวมที่มีชื่อว่า บาราชิราชิ (300 บาท+) ข้างล่างเป็นข้าวปรุงรส ด้านบนมีสารพัดปลาดิบมีทั้งปลาแซลมอน ปลาคำปาจิจากญี่ปุ่น ปลาไหลจากญี่ปุ่น ปลาหมึก กุ้งต้ม หอยเชลล์ ไข่หวาน ไข่ปลาแซลมอน กินข้าวออกรสหวานๆ เปรี้ยวๆ เข้ากันกับปลาดิบสารพัด

ข้าวปั้น 7 คำ
จากนั้นมากินซูชิกันบ้างเป็น ข้าวปั้น 7 คำ (450 บาท+) ที่ปั้นเป็นทรงกลม มีข้าวปั้นหน้าปลาดิบ 3 คำ มีหน้าปลาทูน่าญี่ปุ่น หน้าปลาคำปาจิ หน้าหอยเชลล์ และมีหน้าผัก 4 คำมีหน้าผักมะเขือยาว หน้าหน่อไม้ฝรั่งพันด้วยปลาแซลมอน หน้าผักเมียวหงะ หน้าหน่อไม้ไทยต้มซีอิ้วสไตล์ญี่ปุ่น ข้าวปั้นแต่ละคำข้าวเคี้ยวนุ่มได้รสชาติกับหน้าต่างๆ

ไอศกรีมโมจิถั่วแดง
ส่งท้ายด้วยเมนูของหวาน ไอศกรีมโมจิถั่วแดง (75 บาท+) ไอศกรีมสามารถเลือกรสได้มี ชาเขียว เมลอน วนิลา และมีถั่วแดงบดที่ทางร้านทำเอง และโมจิลูกเล็กๆ ที่ทำเองเช่นกัน กินไอศกรีมเย็นๆ หวานฉ่ำเข้ากันกับถั่วแดงหวานหอม และโมจิเนื้อนุ่มนิ่มปาก

มุมโต๊ะนั่งด้านบน
และใช่ว่าเมนูจานเด็ดจะมีเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอาหารจานเด่นที่ชวนกินอีกมากมาย อาทิ สลัดอิคุระกับปลาแซลมอน (250 บาท+) สลัดอโวคาโดแซลมอน (240 บาท+) สุกี้นึ่ง (ผักรวมหมูไก่ 180 บาท+, ทะเล 250 บาท+) ข้าวผัดต้มยำกุ้งกระทะหิน (220 บาท+, /280 บาท+) กุ้งทอดราดซอสสไตล์โตเกียวเทเบิ (150 บาท+, 220 บาท+) ข้าวผัดผงกะหรี่ทะเล (170 บาท+) ฯลฯ ที่ถ้าใครอยากจะลองลิ้มอาหารญี่ปุ่นแบบยุ่นแท้ๆ และอาหารไทยรสเด็ด ก็ชวนเชิญมากันที่ได้ร้าน “โตเกียว เทเบิล”

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“โตเกียว เทเบิล” (Tokyo Table) ตั้งอยู่ที่ 8/1 ซ.เอกมัย 6 ถ.สุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทางมาจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมายังซอยเอกมัย แล้วตรงเข้ามาที่เอกมัยซ.6 เลี้ยวเข้ามาในซอยนิดเดียวจะเห็นร้านโตเกียว เทเบิลเป็นบ้านอยู่ทางขวามือ จอดรถที่ร้าน และสามารถนำรถไปจอดได้ที่บิ๊กซี เปิดทุกวัน เวลา 11.30-14.00 น. และ 17.30-22.30 น. โทร. 0-2391-4103, 0-2714-2223

เอ็กซิบิท คาเฟ่


ร้านอาหารที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า "เอ็กซิบิท คาเฟ่" ตั้งอยู่ตรงสุขุมวิท 31 ร้านนี้มีเพื่อนเสนอมาว่า ที่นี่มีทั้งอาหารที่ชวนกิน พร้อมกับบรรยากาศที่ชวนนั่งสบายๆ ภายในร้านตกแต่งสไตล์คอนเทมโพรารี่ เน้นเปิดโล่งโปร่งสบาย กรุกระจกใสรอบด้าน จัดโต๊ะเก้าอี้นั่งกินอาหารได้อย่างลงตัว ให้ความรู้สึกเหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน สังสรรค์กันได้อย่างเต็มที่ แถมยังมีงานศิลปะจัดแสดงไว้อย่างสวยงาม และทางร้านก็ขายด้วยถ้าใครสนใจซื้อ

เมจิกสติ๊ก
ส่วนอาหารของที่นี่เป็นสไตล์โฮมคุกกิ้ง มีอาหารไทยต้นตำรับ และอาหารไทยที่ทางร้านดัดแปลงประยุกต์สูตรเล็กน้อยให้เป็นอาหารจานใหม่สูตร สไตล์เฉพาะของทางร้าน และยังมีอาหารจานเส้นอย่างสปาเก็ตตี้นำเสนอ มีสลัด มีเครื่องดื่มกาแฟ และเครื่องดื่มที่ให้ความสดชื่นมากมาย รวมถึงยังมีเบเกอรี่โฮมเมด และเครปสูตรเด็ดของทางร้านที่ชวนกิน

เห็นถึงรายการอาหารมากมายขนาดนี้แล้ว จะมัวรอช้าอยู่ได้อย่างไร ตามมาชิมเมนูเด็ดของที่นี่กันดีกว่า ซึ่งมื้อนี้พวกเราสั่งมากินกันอย่างเต็มที่ เมนูแรกที่สั่งมากินคือ เมจิกสติ๊ก (150 บาท) หน้าตามาเป็นแท่งยาวๆ ที่จริงแล้วเป็นแผ่นแป้งปอเปี๊ยะห่อด้วยไส้ปลาแซลมอนกับกุ้งผสมกัน และผสมกับเครื่องเทศไทย ม้วนเป็นแท่งแล้วทอดกรอบ เคี้ยวกรุบกรอบนอกนุ่มใน ได้รสชาติไส้ที่กลมกล่อม และมีทาทาร์ซอสที่ทางร้านทำเองมาให้จิ้มเพิ่มรสชาติด้วย

สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง
จากนั้นพวกเราสั่งเมนูเส้นจานเด็ดอย่าง สปาเก็ตตี้ครีมไข่กุ้ง ( 220 บาท) มากินกัน เป็นเส้นสปาเก็ตตี้เอามาผัดกับหอมซอย น้ำมันมะกอก และกุ้ง บวกกับใส่วิปปิ้งครีมสด ลงไปด้วยและปรุงรสชาติตามสูตรเด็ดของทางร้าน และโรยหน้าด้วยไข่กุ้ง ชิมรสชาติแล้วถูกปากตรงที่เส้นสปาเก็ตตี้เหนียวนุ่ม ชุ่มครีมซอสที่เข้มข้นเนียนนุ่มหอม

สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมไส้กรอกลูกวัว
และยังตามติดมาด้วยอีกหนึ่งเมนูจานเส้นที่มีชื่อว่า สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมไส้กรอกลูกวัว ( 220 บาท) ทางร้านนำเส้นสปาเก็ตตี้มาผัดกับกระเทียมกลีบใหญ่ พริกแห้ง ปรุงรสชาติและใส่ไส้กรอกลูกวัวที่คัดมาเป็นพิเศษ ม้วนเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากได้รสชาติออกเผ็ดนิดๆ ส่วนไส้กรอกลูกวัวรสดีเคี้ยวนุ่มเด้งปาก

ฉู่ฉี่หมูสับไข่ดาว
ฉู่ฉี่หมูสับไข่ดาว (120 บาท) เมนูนี้ดูแปลกและน่ากินดี เป็นสูตรที่ทางร้านคิดค้นขึ้นมาเอง โดยนำพริกแกงฉู่ฉี่มาผัดกับหัวกะทิ และหมูสับ ปรุงรสชาติ แล้วนำมาราดบนไข่ดาวทอดกรอบ ลิ้มรสชาติหอมเครื่องฉู่ฉี่ ได้รสชาติหมูสับเคล้ารสพริกแกงฉู่ฉี่เข้มข้น กล่อมกลอมเข้ากับไข่ดาว

ต้มข่าปลากะพง
แล้วอีกหนึ่งเมนูที่สั่งมากินคือ ต้มข่าปลากะพง (150 บาท) เมนูไทยๆ ที่คุ้นเคย แต่ทางร้านนำมาดัดแปลงใส่เนื้อปลากะพงแทน และต้มข่าแบบครบเครื่อง ชิมรสชาติต้มข่าเข้มข้นกะทิ หวานมันอมเปรี้ยว เนื้อปลากะพงนุ่มดี

เครปซอสส้ม
และเมื่อกินอาหารคาวแล้ว ก็ต้องมีอาหารหวานกินล้างปากกันด้วย เลือกสั่งมาเป็น เครปซอสส้ม (120 บาท) ทางร้านทำแป้งเครปเองแบบสดใหม่ แล้วก็มีซอสส้มรสเด็ดราดมาบนเครป เสิร์ฟคู่มากับไอศกรีมวนิลา กินแล้วเครปนุ่มปากชุ่มซอสส้มเปรี้ยวๆ หอมหวาน กินกับไอศกรีมเย็นชื่นใจ

อีกหนึ่งมุมนั่งสบายๆ
มื้อนี้พวกเราก็อิ่มกับเมนูอาหารจานเด่นไปหลายอย่าง แต่เมื่อดูจากรายการอาหารแล้วจะเห็นว่ายังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ กุ้งไข่กรอบ (150 บาท) แกงส้มชะอมกุ้ง (180 บาท) เส้นใหญ่ราดผัดกระเพรา (85-100 บาท) สลัดปลาแซลมอนรมควัน (220 บาท) ฯลฯ แต่เห็นทีต้องติดเอาไว้ก่อน แล้วจะหาโอกาสกลับมาอิ่มกับอาหารที่ร้าน "เอ็กซิบิท คาเฟ่"กันอีกก็แล้วกัน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"เอ็กซิบิท คาเฟ่" (exhibit cafe) ตั้งอยู่ที่ 235/28-31 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ การเดินทางจากถ.สุขุมวิท วิ่งตรงมายังซ.สุขุมวิท 31 เลี้ยวเข้าซอยแล้วขับตรงเข้ามาเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้าย แล้ววิ่งตรงไปตามทางเรื่อยๆจนมาถึงคอนโดมนทิตา จะเห็นลานจอดรถกว้างๆ อยู่ ร้านเอ็กซิบิทตั้งอยู่ด้านใน มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น. แต่ช่วงเวลา 14.00-17.00 .น ของวันจันทร์-ศุกร์ ทางร้านจะขายแต่อาหารว่างทานง่ายๆ โทร. 0-2662-3636

นครคารา

ร้านอาหารที่ว่านี้มีนามว่า "นครคารา"เป็น ร้านอาหารขนาดใหญ่ ที่มีห้องคาราโอเกะบริการรวมอยู่ด้วย ซึ่งเมื่อเดินเข้ามาภายในร้านจะสัมผัสได้เหมือนกับที่นี่เป็นเหมือนอีกหนึ่ง เมืองเล็กๆ ที่ภายในตกแต่งด้วยสไตล์ไทยประยุกต์ ออกแนวล้านนานิดๆ ด้านในมีโต๊ะนั่งให้กินอาหารที่ถูกจัดแบ่งเป็นโซนมากมาย ภายใต้บรรยากาศโล่งโปร่งสบาย รับลมธรรมชาติ มีมุมโต๊ะให้เลือกนั่งแบบหลากหลาย มีมุมโต๊ะนั่งกินข้าวกับพื้น ปูเบาะนุ่มนั่งสบายเหมือนนั่งกินขันโตก มีมุมโต๊ะนั่งห้อยขา แบบชานน้ำริมแม่น้ำ มีมุมโต๊ะนั่งชิลล์ๆ เหมือนมาที่ร้านกาแฟ มีมุมโต๊ะนั่ง เอนหลังพิงกายสบายๆ และมีมุมเวทีเล็กๆ อยู่ตรงกลางร้าน ซึ่งในทุกวันตั้งแต่ 19.30 น. เป็นต้นไป จะมีดนตรีเล่นสดจากนักร้องมาขับกล่อมบทเพลงเพราะๆ ให้ฟังอย่างเพลิดเพลิน

ฟังดนตรีสดๆในร้าน
แล้วก็ยังมีในส่วนของโซนห้องแอร์ ที่สามารถเป็นห้องจัดเลี้ยงได้ด้วย และที่พลาดไม่ได้คือโซนห้องคาราโอเกะที่มีถึง 18 ห้อง แบ่งห้องเป็นขนาดที่แตกต่างกัน มีขนาด S 9 ห้อง, M เล็ก 3 ห้อง M ใหญ่ 5 ห้อง และ L 1 ห้อง ซึ่งภายในห้องคาราโอเกะครบครันไปด้วยเครื่องเสียงที่สมบูรณ์แบบ มีเสียงที่ดี มีทีวีจอใหญ่ มีไมค์ให้ 2 ไมค์ ส่วนเรื่องของเพลงนั้นมีให้เลือกร้องมากมายหลากหลายแบบ มีทั้งเพลงไทย สตริง ลูกกรุง ลูกทุ่ง เพลงฝรั่ง เพลงจีน เพลงญี่ปุ่น และเพลงเกาหลี ซึ่งเพลงเหล่านี้จะอัพเดทเพลงใหม่ๆ ทุกสัปดาห์

หมกลาบปลาตองนครเวียงจันทน์
ส่วนเรื่องของอาหารการกิน ของที่นี่ก็มีอาหารไทยที่ชวนกินมากหลาย มีทั้งอาหารไทยประจำภาค อาหารไทยตำรับชาววัง และอาหารไทยประยุกต์ ที่แต่ละเมนูล้วนแล้วแต่น่ากินทั้งนั้น อย่างเมนูเด็ดๆ ที่ถ้ามาแล้วอยากให้ลองสั่งมาลิ้มลองกันก็มี หมกลาบปลาตองนครเวียงจันทน์ (140 บาท) เป็นอาหารอีสานสูตรโบราณ ดูหน้าตาเหมือนไส้อั่ว ทางร้านนำเนื้อปลากรายที่ขูดเอาแต่เนื้อล้วนๆ มาคลุกเคล้ากับเครื่องลาบครบสูตร ใส่พริกแกงส้มด้วย แล้วเอามาห่อใบตองเผาด้วยเตาถ่าน หั่นมาเป็นชิ้นๆ ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย เวลากินให้บีบมะนาวลงไปสักหน่อยเพิ่มความเปรี้ยว จะได้รสชาติเนื้อปลาที่เข้มข้นเครื่องลาบออกเผ็ดนิดๆ กินแกล้มกับเครื่องเคียง

กุ้งทอดนครคารา
กุ้งทอดนครคารา (200 บาท) เมนูนี้ใครชอบกินกุ้งแนะนำ เป็นกุ้งทะเลทั้งตัวนำไปเสียบไม้ นำมาหมักกับงาขาวและซอสปรุงรสนานกว่า 2 ชม.แล้วนำมาทอดจนกรอบกินได้ทั้งตัว กุ้งกรอบนอกนุ่มในมีรสชาติในตัว จิ้มเพิ่มรสชาติด้วยน้ำจิ้มที่ทางร้านทำเองออกหวานๆ อมเปรี้ยว

เมี่ยงปลาทูอัมพวา
จานต่อมาขอนำเสนอ เมี่ยงปลาทูอัมพวา (160 บาท) ทางร้านใช้ปลาทูนึ่งจากแม่กลอง นำมาแล่เอาแต่เนื้อแล้วทอด หั่นมาเป็นชิ้นพอดีคำ มีผักกาดหอม และใบชะพลูที่ใส่แผ่นแป้งแหนมเนืองมาด้วย ให้ห่อกินกับปลาทู ใส่เครื่องเคียงอย่าง ขิง ถั่ว หอมแดง พริกขี้หนู มะพร้าวคั่ว แล้วราดด้วยน้ำจิ้มเมี่ยงสูตรเด็ด 3 รส ห่อเป็นคำเคี้ยวกร้วมเข้าปากได้รสชาติปลาทูและน้ำจิ้มเมี่ยงเปรี้ยว เค็ม เผ็ดถูกปากดี

ไก่นาอบสมุนไพรสูตรโบราณ
จากนั้นมากินเมนูนี้ ไก่นาอบสมุนไพรสูตรโบราณ (140 บาท) เป็นไก่นำมาหมักกับเครื่องเทศต่างๆนานกว่า 3 ชม. แล้วนำมาอบกับสมุนไพรตะไคร้ ข่า หอมแดง รากผักชี และพริกไทยที่ตำละเอียด อบอยู่ 20 นาที จนไก่สุกได้ที่ เสิร์ฟมาแบบมีน้ำขลุกขลิก ชิมไก่เนื้อนุ่มชุ่มรสเครื่องสมุนไพร จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มซีฟู้ด พร้อมมีผักสดให้กินแกล้ม

ต้มจิ๋วไก่
ส่งท้ายด้วยเมนู ต้มจิ๋วไก่ (120 บาท) สูตรจากในวังสมัย ร.5 เป็นเหมือนต้มโคล้งผสมกับแกงเลียง เป็นซุปใส ใส่ไก่ ต้มกับมันเทศ ปรุงรสด้วยพริกขี้หนู หอมแดง ใบแมงลัก ใบโหระพา และน้ำมะขามเปียก ซดน้ำซุปร้อนๆ หอมกลิ่นโหระพาอ่อนๆ น้ำซุปรสกลมกล่อมออกเปรี้ยวนิด เผ็ดหน่อย ส่วนไก่เนื้อนุ่มปาก

อีกหนึ่งมุมในนครคารา
แต่หากเกรงว่าสั่งมาแค่นี้แล้วจะไม่อิ่ม ขอบอกว่ายังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนสั่งมากินอีกเยอะ อาทิ ต้มยำบกเมืองสองแคว (150 บาท) คั่วกลิ้งซี่โครงอ่อนนครศรี (120 บาท) เมี่ยงแก้วหมูกรุบตำรับคุณยาย (120 บาท) มัสมั่นผัดแห้งกับแผ่นเกี๊ยวกรอบ (150 บาท) โป๊ะแตกผัดแห้งสูตรชาววัง (160 บาท) น้ำมิ้นต์ (60 บาท) สับปะรดน้ำขิง (60 บาท) และอีกสารพัดรายการอาหารจานเด็ดมากมายที่ "นครคารา" เตรียมไว้ให้ได้มาอิ่มหนำพร้อมกับเพลงคาราโอเกะมันส์ๆ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"นครคารา" ตั้งอยู่ที่55/8 ถ.รัชดาภิเษก (หลังห้างเอสพลานาส) แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกฟอร์จูน วิ่งตรงมา ถ.รัชดาภิเษก ตรงมาจนถึงทางเข้าห้างเอสพลานาส วิ่งตรงมาทางด้านหลังจะเห็นนครคาราตั้งอยู่ มีป้ายให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 18.00-02.00 น. ศุกร์-เสาร์ ควรโทร.มาของล่วงหน้า และคาราโอเกะต้องโทร. มาจองล่วงหน้า และทางร้านยังรับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร. 0-2245-0077-8

2552/10/18

จ่วนเฮี้ยง ติ่มซำ-กระหรี่ไหมฝัน

“ภูเก็ต” ไข่มุกแห่งอันดามัน

เอ่ยชื่อนี้ แน่นอนว่าภาพความเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่โด่งดังไปทั่วโลกย่อมปรากฏเด่นหราขึ้นในใจของใครหลายๆคน

ในขณะที่ภาพความเป็นเมืองวัฒนธรรมนั้นหลายคนอาจไม่ค่อยนึกถึง ทั้งๆที่ภูเก็ตเป็นหนึ่งในเมืองที่มีอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมชัดเจนเมืองหนึ่งเลยทีเดียว

ยามเช้าเนืองแน่นที่ร้านจ่วนเฮี้ยง
สำหรับ“ผ่านมาแวะกิน” หากพูดถึงความเป็นเมืองทางวัฒนธรรมของภูเก็ต คนชอบกินอย่างเราย่อมต้องเทใจให้กับวัฒนธรรมการกินที่เมืองนี้มีวัฒนธรรมการกินโดดเด่นไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งยังมีอาหารพื้นเมืองอันเป็นเอกลักษณ์มากมาย

และนั่นทำให้การล่องใต้ลงไปเยือนภูเก็ตหนล่าสุด เราจึงไหว้วานเพื่อนชาวภูเก็ตผู้มีรสนิยมด้านอาหารพื้นเมือง พาไปเสาะแสวงหาของอร่อยๆกินตั้งแต่เช้าจรดเย็น แต่ดูเหมือนว่าอาหาร“มื้อเช้า”ะทำให้“ผ่านมาแวะกิน”เกิดอาการรักพี่เสียดายน้องมากที่สุด เพราะในภูเก็ตมีร้านมื้อเช้าอร่อยๆให้เลือกกินกันเพียบ แต่สุดท้ายพวกเราก็ตกลงปลงใจพาท้องไปฝากกันที่ ร้าน”จ่วนเฮี้ยง” ย่านใจกลางเมือง

หลากหลายติ่มซำรสอร่อย
เหตุที่ตัดสินใจเลือกร้านนี้เป็นพิเศษ ก็เพราะร้านจ่วนเฮี้ยงเป็นร้านติ่มซำเก่าแก่เปิดขายมาร่วม 100 ปี ปัจจุบันถือเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ซึ่งถ้าไม่เจ๋งจริงคงไม่ยืนยงคงกระพันและมีคนกิน(ช่วงเช้า)เนืองแน่นมาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับติ่มซำที่นี่เป็นสูตรจีนกวางตุ้งที่ทำสืบทอดกันมาแต่ดั้งเดิม คัดสรรแต่วัตถุดิบสดใหม่มาทำ เมื่อเราเข้ามานั่งในร้านทางร้านจะเสิร์ฟติ่มซำมากมายมาขึ้นโต๊ะ กรุณาอย่าตกใจว่าจะต้องกินให้หมดหรือทางร้านเขาจะคิดเงินทั้งหมด เพราะมื้อนี้ใครชอบเมนูไหนก็กินเมนูนั้น ส่วนที่เหลือทางร้านเขาจะเก็บคืนโดยคิดเงินเฉพาะเมนูที่กินเท่านั้น

ของทอดร้อนๆสดๆใหม่ๆ
โดยเมนู(ติ่มซำ)ที่ไม่น่าพลาดก็มี ขนมจีบหมู(8 บาท) ที่ใช้หมูบดเองเนื้อแน่นอร่อยไร้ คาว ลูกชิ้นปลา-ปลาเต้าหู้(10 บาท) เนื้อปลานึ่ง (20 บาท)กับเนื้อปลาแน่นหวานไร้คาว กระดูกหมู (20 บาท)ทางร้านตุ๋นมารสกลมกล่อมเนื้อนุ่ม ส่วนเมนู(ติ่มซำ)อื่นๆชวนกิน มี ฮะเก๋า สาหร่าย หมูทอด เผือกทอด ก๋วยเตี๋ยวหลอด ซาลาเปา (8 บาท) ปลาทอด (10 บาท) ขนมจีบปู-กุ้ง(14 บาท) ตีนไก่(10 บาท)

กระหรี่ไหมฝัน มีเฉพาะเสาร์-อาทิตย์
ทั้งหมดนี้หากใครอยากเพิ่มรสชาติก็ให้กินกับกับซอสตี่เจี่ยวรสออกหวานนิดๆ หรือจะจิ้มกับซอสเผ็ดสูตรเฉพาะของทางร้านก็ได้รสชาติไปอีกแบบ

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูพิเศษเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์คือ กระหรี่ไหมฝัน(30 บาท)เป็นเส้นหมี่ขาว(แห้ง)ราดหน้าด้วยแกงกระหรี่ขลุกคลิกถึง รสถึงเครื่อง ในขณะที่เมนูชวนกินอื่นๆก็มี บ๊ะจ่าง กระเพาะปลา ข้าวต้มปลา หมี่สั่ว หอยจ๊อ หมั่นโถว+น้ำแดง ซึ่งใครที่ไปภูเก็ตหากอยากลองลิ้มมื้อเช้ารสวิเศษ จ่วนเฮี้ยงคือหนึ่งในร้านที่ไม่น่าพลาดเป็นอย่างยิ่ง

*****************************************

ร้านจ่วนเฮี้ยง ตั้งอยู่ เลขที่ 11 ถ.ชนะเจริญ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เปิดบริการทุกวัน(ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 6.00 – 11.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่โทร. 0-7621-6271