2552/03/23

ร้านอาหาร Let's Sea Pub & Restaurant

ร้านอาหาร Let's Sea Pub & Restaurant

ตั้งอยู่ ย่าน Town In Town ตรงข้ามกับร้านอาหารบ้านต้นซุง เป็นร้านอาหารขนาดกลางที่ให้บริการทั้งเรื่องอาหารอันเลิศรส และมี Live Band Music ทุกคืนๆ ละ 3 วง เริ่มเล่นจากช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม จนถึง ตี 2 ให้กับผู้ที่รักและชื่นชอบในฟังเพลงแบบมันๆ หรือเบาๆ ได้สนุกสนาน เคลิ้มเคลิ้ม พร้อมกับอิ่มสำราญกับอาหารกันอย่างเต็มที่

ที่นั่งทานอาหาร เป็นแบบสบายๆ มีเทียนหอมจุดอยู่บริเวณโต๊ะนั่งทานอาหาร เหมาะกับหนุ่มสาวเหลือเกิน


บรรยากาศของร้าน แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนภายในร้าน ซึ่งจะได้เห็นการแสดงสดของวงดนตรี ทุกๆ คืนจะมีวงดนตรีมาเล่นทั้งหมด 3 วง หมุนเวียนสลับกันไป

ช่วงค่ำเป็นเพลงแนว สบายๆ เย็นๆ แบบ นั่งทานอาหารไป ฟังเพลงไป

ร้าน " Let's Sea Plub & Restuarant" ตั้งอยู่เลขที่ 290 ถนนเรียบทางด่วนพระรามเก้า-รามอินทรา อยู่ฝั่งเดียวกับ โรงแรมทาว์นอินทาว์น เลี้ยวซ้ายซอยเดียวกับ ร้านอาหารบ้านต้นซุง เข้าไปภายในซอยอยู่ด้านซ้ายมือต้นซอย Tel : 02-9356119 Fax : 02-9356120


เพื่อนๆ ท่านใดที่เข้ามาอ่านบลอคนี้ สามารถพิมพ์ใบนามบัตร ด้านล่าง และนำไปเป็นส่วนลด 15% กับทางร้านได้ค่ะ


บุฟเฟ่ต์เบเกอรี่ Sun Moulin




Sun Moulin บุฟเฟ่แบบอิ่มเล๋ก เล็ก -- ราคา 139 บาท

ร้านเล็กๆ กระทัดรัด สามารถมองวิวผ่านกระจกเห็นห้างบิ๊ก ซี ถนนฝั่งตรงข้ามได้สบายๆ เหมาะกับการนั่งชิวๆ ทานขนมเบเกอรี่ไป คุยไปกับเพื่อนกับฝูง นั่งสบายๆ วันหยุด หรือวันธรรมดาก็ได้ เพราะเปิดทุกวัน

บุฟเฟ่ต์เบเกอรี่ที่นี่ ไม่เพียงมีแต่เบเกอรี่นะคับ เค้าก็มีพวกสลัด มันบด ขนมเค้ก สปาเก็ตตี้ด้วยอะ...เบเกอรี่เค้าก็มีตั้งแต่แซนวิสทูน่า แซนวิสแฮมชีส ครัวซองเบคอน ครัวซองแฮมซีส พายไส้กรอก พิซซ่าโทสต์หน้าแฮม หน้าทูน่า คุ๊กกี้เรซิน คุ๊กกี้ช๊อคชิฟ เค็กมีทั้งเค้กวนิลา เค็กช็อคโกแลต ที่นี่เค้าเรียกว่า..Cake for Tea Time พวกสลัดก็มีผักมากมายให้เราเลือก โคลสลอว์ก็มี สำหรับสปาเก็ตตี้ก็มีทั้งสปาเก็ตตี้กระเทียม สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อ สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมา..ไก่ทอดก็มีนะ พวกเครื่องดื่มก็มีทั้งกาแฟร้อน ชาร้อน...เครื่องมือเย็นก็มีทั้งชาเย็น กาแฟเย็น น้ำอัดลม น้ำเปล่า... ครบเครื่อง

เราต้องจ่ายเงินที่แคชเชียร์ก่อนเลยคับตั้งแต่เข้าร้าน หัวละ 139 บาทเน็ท แล้วก็เลือกทานได้ตามสบาย...สำหรับผมแล้วราคานี้ กับคุณภาพแบบนี้...เกินคุ้มนะ..ได้ทั้งของคาว ของหวาน ในเวลาเดียวกัน....เหมือนมานั่งทานอาหารเบรกกลางวัน...อาหารเบาๆ ไม่หนักไป...ราคากำลังดี......ในห้างกลางกรุงแบบนี้

ลงสถานีบีทีเอสที่ชิดลมหรือสยามก็ได้ครับ แล้วเดินมาที่ Central World
มาในโซนห้างอิเซตัน แล้วขึ้นมาชั้น3 แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย ร้านนี้จะอยู่ตรงหัวมุมของชั้นเลยครับ ติดกับร้านขายแว่นตา กับเสื้อผ้าอาดิดาส...ไงหาไม่เจอ..ถามเจ้าหน้าที่ห้างได้เลยคับ

ราคา 139 บาทเน็ท
เปิดทุกวัน 12.00 - 14.30 น. จันทร์ถึงอาทิตย์
โทร. 02-2559898
( เบอร์ห้างอิเซตัน ต่อ ร้านซันเมาลินชั้น 3 )

2552/03/19

ร้านอาหาร นั่งสบาย หายหิว

ทางร้านตกแต่งร้านได้อารมณ์เหมือนกับว่าเรากำลังมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ตัวเอง หรือบ้านเพื่อนยังไงยังงั้น เพราะมีโต๊ะนั่งในมุมสบายๆ หลายมุมให้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะเป็นมุมโซฟาเหมือนห้องนั่งเล่น มุมโต๊ะเก้าอี้เหมือนนั่งกินข้าวอยู่ในห้องอาหารที่บ้าน มุมโต๊ะนั่งโซฟาที่ติดกระจกยาวมีหมอนอิงนุ่มๆ ให้นั่งพิง และแถมยังมีชั้นวางหนังสือที่มีหนังสือหลากหลายสไตล์ให้ได้หยิบมาอ่านอย่าง สบายอารมณ์ และยังมีอินเตอร์เน็ต wi–fi ให้เล่นกันฟรีๆ ด้วยอีกต่างหาก แล้วถ้าใครอยากจะมาจัดเลี้ยงจัดสัมมนา ที่ร้านนี้ก็มีห้องประชุมจัดเลี้ยงบริการด้วย 1 ห้องอยู่ด้านบน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีคาราโอเกะให้ร้องด้วยอีกต่างหาก

ฟรุ้ตสลัด หรือ สลัดผลไม้(79 บาท) ทางร้านนำเอาผลไม้หลายอย่างอาทิ สาลี่ แอปเปิ้ล ฝรั่ง สับปะรด หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าเล็กๆ แล้วก็โรยหน้าด้วยผักมีกะหล่ำปลีสีม่วง แครรอท และพริกแดง พริกเหลือง แล้วก็ราดด้วยน้ำสลัดข้นๆ และที่พิเศษคือเสิร์ฟมาในตะกร้าที่ทำมาจากเผือกสานเป็นตะกร้าทอดกรอบ กินสลัดผลไม้กุบกรอบเข้ากับน้ำสลัดรสกลมกล่อม แถมยังได้กินเผือกทอดกรอบๆ ด้วย

สลัดปลากะพงกรอบ (89 บาท) เป็นปลากะพงแล่บางๆ หมักเครื่องเทศสูตรแล้วชุบแป้ง คลุกโรยเกล็ดขนมปังทอดจนเหลืองกรอบนอกนุ่มใน แล้วก็ราดหน้าด้วยน้ำสลัด เสิร์ฟพร้อมสลัดผักสด ชิมสลัดปลากะพงแล้วต้องยกนิ้วให้ เพราะเนื้อปลาเคี้ยวกรอบนอกนุ่มในเบาปากไม่คาว กลมกลืนรสชาติเข้ากันน้ำสลัดรสดี

ชุดสลัดกุ้งกรอบ (89 บาท) ตัวกุ้งนั้นทำคล้ายกุ้งเทมปุระ คือนำมากุ้งมาชุบแป้งและชุบเกล็ดขนมปังทอดจนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมากับสลัดผัก และน้ำสลัดครีมข้นที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ และโรยหน้าด้วยงาขาวคั่วเพิ่มความหอม

ไก่กรอบซอสมะนาว (119 บาท) เมนูนี้ทางร้านบอกว่าเป็นสไตล์ไทย+ยุโรปเป็นเมนูขายดี มีความเป็นไทยอยู่ที่ไก่ที่ทางร้านเลือกใช้เนื้อไก่ส่วนอกที่ติดหนังด้วย และมีความพิเศษอยู่ตรงที่จะนำเนื้อไก่สับ มันหมู และกุ้งสับที่ผสมรวมกันนำมาโปะอยู่บนหนังไก่ ก่อนที่จะนำชิ้นเนื้อไก่ไปชุบแป้ง คลุกเกล็ดขนมปังทอดจนไก่สุกกรอบ และความเป็นยุโรปก็อยู่ที่ตัวซอสมะนาวสูตรเด็ดของทางร้านที่นำมาราดบนชิ้น ไก่ กินไก่เนื้อแน่นกรอบนอกนุ่มลิ้น ผสานรสชาติเข้ากับซอสมะนาวโรยงาขาวที่ออกรสอมเปรี้ยว อมหวานนิดๆ แถมยังมีเส้นหมี่ขาวทอดกรอบมาให้กินแนมเครื่องเคียงแก้เลี่ยนด้วย

ยำสลัดทูน่า (79 บาท) ทางร้านนำทูน่ามายำด้วยน้ำยำแบบไทยๆ กับผัดหลากสีสัน และใส่น้ำสลัดสูตรเด็ดลงไปคลุกเคล้าด้วย ทำให้สลัดทูน่าจานนี้ ได้รสชาติเปรี้ยวจากน้ำยำและความหวานจากน้ำสลัดที่ลงตัวเข้ากันกับทูน่า

ยำหมูทอดแดดเดียว (75 บาท) ถือเป็นอีกหนึ่งจานเด็ดที่ไม่ควรพลาด เพราะทางร้านนำหมูทอดแดดเดียวที่หมักเครื่องเทศรสกลมกล่อม นำมายำใส่ผักและน้ำยำสูตรเด็ด ทำให้หมูทอดแดดเดียวจานนี้กินแล้วเนื้อหมูทอดเคี้ยวหนึบปากออกหวานนิดๆ ผสานรสชาติเข้ากับน้ำยำที่ออกเปรี้ยวจี๊ดจ้านโดนใจ

กุ้งผัดซอสมะขาม (129 บาท) เป็นกุ้งแม่น้ำคลุกแป้งทอดเหลืองกรอบพอดี แล้วก็ราดด้วยซอสมะขามสูตรเด็ด โรยหน้าด้วยหอมเจียวทอดกับพริกทอด กินกุ้งตัวโตซึมรสชาติน้ำซอสมะขามเข้มข้นออกรสเปรี้ยวนิด หวานหน่อยกลมกล่อมลิ้น

ยังมีเมนูอื่นๆ อีกหลายอย่างที่ชวนกิน อาทิ ทอดมันกุ้ง (79 บาท) ปลากะพงทอดกระเทียม (179 บาท) เซ็ทแกงเขียวหวานไก่+ทอดมันปลา+ข้าว (99 บาท) เซ็ทส้มตำไทย+ไก่ทอดสมุนไพร+ต้มแซบกระดูกอ่อน+ข้าวเหนียว (99 บาท) และเมนูอื่นๆ อีกมากมาย ที่ชวนให้มาอิ่มกันแบบสำราญตามสไตล์ของร้าน "นั่งสบาย หายหิว"

ชื่อร้าน : นั่งสบาย หายหิว

ประเภทอาหาร : อาหารไทยฟิวชั่น

เมนูจานเด่น : ฟรุ้ตสลัด (สลัดผลไม้), สลัดปลากะพงกรอบ, ชุดสลัดกุ้งกรอบ, ไก่กรอบซอสมะนาว, ยำสลัดทูน่า, ยำหมูทอดแดดเดียว, กุ้งผัดซอสมะขาม

บรรยากาศร้าน : ห้องแอร์ กว้างขวางนั่งสบาย มีหลายมุมให้เลือกนั่ง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่หน้า Tops RCA

เวลาเปิด-ปิด : เปิดจันทร์-ศุกร์ 11.00-22.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 11.30-22.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ :ทางร้านมีบริการเดลิเวอร์รี่ส่งฟรีไม่เกิน 5 กม. โทร. 08-5550-9009 หรือเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ www.nungsabai.com



ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

2552/03/15

ร้านอาหาร ตำเทวดา

"ตำเทวดา" เป็นร้านอาหารที่ขายอาหารอีสานรสจัดจ้านแบบมีการปรับรสชาติให้ถูกปากคนพื้น ภาคกลาง อีกทั้งยังมีอาหารตามสั่งอื่นๆ อีกหลายหลากที่ล้วนแล้วแต่ชวนกินทั้งนั้น ซึ่งพอขอเมนูมาเปิดดูรายการอาหารมีให้เลือกสั่งมากมายจนตาลาย แต่พอเห็นราคาอาหารแล้วก็ต้องบอกว่ายิ้มได้ เพราะราคาอาหารของที่นี่เขาย่อมเยาไม่หนักกระเป๋าชวนจ่ายไหวสมเหตุสมผล

ปีกไก่เทวดา (59 บาท) ทางร้านตั้งชื่อเสียกิ๊บเก๋ ที่จริงแล้วก็คือ ปีกไก่กลางที่หมักกับเครื่องปรุงสูตรเด็ดของทางร้าน แล้วชุบแป้งทอดมาจนเหลืองกรอบชวนกิน กินไก่เทวดากรอบนอกเนื้อในนุ่ม จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มไก่หวานๆ เผ็ดๆ

ส้มตำเทวดา (45 บาท) ก็ถูกเสิร์ฟมาแทนที่ เป็นส้มตำจานเด็ดขายดีของทางร้าน ที่หน้าตาไม่เหมือนส้มตำธรรมดาทั่วๆ ไป เพราะทางร้านนำเอาเส้นมะละกอและแครอทไปชุบแป้งที่ปรุงรสไว้แล้วทอดกรอบ มาพร้อมกับส้มตำไทยที่ตำแยกใส่ถ้วยมาต่างหาก

คอหมูเทวดา (59 บาท) เมนูนี้เพื่อนสาวไม่กลัวอ้วนสั่งมา เป็นคอหมูย่างที่หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะของทางร้านจนเข้าเนื้อ นำไปย่างและนำมาทอดอีกที แล้วแล่คอหมูมาเป็นชิ้นพอดีคำ เคี้ยวเนื้อคอหมูแห้งกำลังดีเนื้อนุ่มติดมันหน่อยๆ ได้รสชาติเครื่องหมัก และมีน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดให้จิ้มเพิ่มรสชาติด้วย

ไส้กรอกอีสาน (59 บาท) จานนี้ทางร้านแนะนำว่าขายดี เพราะเป็นไส้กรอกอีสานแท้ๆ ที่สั่งตรงมาเป็นพิเศษจากอุบลราชธานี ตัวไส้กรอกจะเน้นเนื้อหมูมากกว่าข้าว กินแล้วถูกปากไส้กรอกเคี้ยวนุ่มสัมผัสได้ถึงรสชาติของเนื้อหมูที่อยู่ข้างใน ไม่ออกเปรี้ยวมาก

ลาบปลาหมึก (59 บาท) ที่ทางร้านใช้ปลาหมึกกล้วยสดๆ ลวกสุกและนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องลาบครบสูตรที่เน้นใส่ข้าวคั่วที่ทางร้านทำ เองแบบใหม่ๆ เคี้ยวชิ้นปลาหมึกเด้งหนึบหนับปากได้รสชาติเครื่องลาบจัดจ้านหอมกลิ่นข้าว คั่ว

ยำหมูยอ (59 บาท) เป็นยำจานเด็ดที่ไม่ควรพลาด เพราะทางร้านเลือกหมูยอพริกไทยดำที่สั่งตรงมาจากอุบลราชธานีโดยเฉพาะ นำมายำใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ และผักขึ้นฉ่าย ชิมรสชาติยำหมูยอเนื้อหมูยอเคี้ยวนุ่มปากรสชาติกลมกลืนเข้ากับน้ำยำออก 3 รส เปรี้ยว หวาน เค็ม เจือเผ็ดนิดๆ

ยำนางฟ้า (59 บาท) ชื่อเพราะเสียไม่มี แท้ที่จริงก็คือเห็ดนางฟ้าที่ทางร้านนำไปชุบแป้งปรุงรสทอดกรอบ แล้วก็มีน้ำยำที่ปรุงรสมาด้วยหมูสับ ถั่วลิสง มะเขือเทศ หอมใหญ่ ขึ้นฉ่าย และใส่น้ำกระเทียมดองด้วย กินยำนางฟ้ากรอบนุ่ม ชุ่มด้วยน้ำยำออกรสเปรี้ยวนำถูกปากอีกหนึ่งจาน

ต้มแซ่บสามเกลอ (59 บาท) ทางร้านตั้งชื่อเสียกิ๊บเก๋ เป็นต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนนี่แหละ แต่สามเกลอที่ว่าคือ ทางร้านเขาเน้นใส่ข้าวคั่ว พริกขี้หนูป่น และใบโหระพา มาในต้มแซ่บ ทำให้ได้ต้มแซ่บที่ซดน้ำร้อนๆ แล้วแซ่บเข้มข้นจัดจ้านถึงใจ แถมหอมข้าวคั่วและใบโหระพาอ่อนๆ ส่วนกระดูกหมูก็เปื่อยนุ่มกำลังดี

บรรยากาศร้าน : ห้องแอร์กว้างขวางนั่งสบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 122/41 วิภาวดี ซ.2 (ซอย ม. หอการค้าไทย) เขตดินแดง แขวงดินแดง กทม. การเดินทางถ้าขับรถมาจากถ.วิภาวดี วิ่งตรงมายังม.จักรพงษภูวนารถ ขับรถเข้ามาในมหาลัยฯ แล้วบอกกับรปภ.ว่ามากินอาหารที่ร้านตำเทวดา จากนั้นก็เดินออกมาแล้วเดินตรงมาที่วิภาวดีซ. 2 (ซอย ม. หอการค้าไทย) ตรงเข้ามานิดเดียวจะเห็นร้านตำเทวดาอยู่ริมถนนขวามือ จุดสังเกตอยู่ติดกับธ.ไทยพาณิชย์

สถานที่จดรถ : จอดรถได้ใน ม.จักรพงษภูวนารถ

เวลาเปิด-ปิด : จันทร์-เสาร์ 10.30-21.30 น. (แต่ครัวปิด 21.00 น.)

เบอร์โทรศัพท์ :ทางร้านมีบริการจัดส่งนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2275-7129


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

2552/03/09

ข้าวอบชีส จากพิซซ่าฮัท

“ข้าวอบชีส สเต็กปลา เลมอนซอส” ขอบอกเลยว่าอร่อยเหาะจริงๆ เพราะรสชาติที่เปรี้ยวนิดๆของเลมอนซอส มันเข้ากันได้ดีกับเนื้อปลาที่นุ่มๆ บวกกับความหอมของชีสด้วยแล้ว มันให้กลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมมาก ใครที่ชอบรับประทานเนื้อปลา เมนูนี้ของพิซซ่าฮัท ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยจริงๆ

ขอลองเมนูต่อไปบ้างละกัน “ข้าวอบชีส ไก่แบล็คเปปเปอร์” เปิดกล่องออกมา กลิ่นหอมของพริกไทยดำก็โชย เมื่อทานเข้าไป ก็ได้รสชาติที่เข้มข้นของไก่ที่หมักพริกไทยดำจนเข้าเนื้อ ตัดกับความหวานมันพอดีๆของไวท์ครีมซอส ถ้าใครชอบรสชาติที่เข้มข้น ขอรับรองว่าต้องติดใจแน่นอน ไก่พริกไทยดำกับชีสที่อบกับข้าว กลิ่นยั่วน้ำลายและรสชาติถูกใจจริงๆ


เมนูสุดท้าย “ข้าวอบชีส สเต็กหมู บราวน์ซอส” หน้าตาดูดี เนื้อหมูก็ชิ้นใหญ่ ส่วนรสชาติ ก็ไม่แพ้กันกับเมนูอื่น เนื้อหมูนุ่มดีทีเดียว รสชาติซอสก็เข้ากันได้ดีกับหมูและชีส สำหรับตัวเองแล้วที่ติดใจที่สุดก็คงจะเป็นน้ำซอสที่ปรุงมาได้อย่างลงตัวและ เข้ากับเนื้อหมูได้ดีมากๆ

มัวแต่ทานเพลินจนลืมไปว่านั่งอยู่กับสมาชิกชาวแก๊งค์ของเรา พอหันไปถามว่าเป็นอย่างไรกับเมนูใหม่นี้ ทุกคนก็ติดใจทีเดียว บ้างก็ชอบไก่ บ้างก็ชอบหมู บ้างก็ชอบปลา แต่จุดที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับข้าวอบชีสนี้ก็คือว่า ต้องรับประทานตอนที่ยังร้อนๆอยู่ ใครที่อยากลองสั่งมารับประทานที่ทำงานหรือที่บ้านก็ง่ายๆ เลยค่ะ เพียงโทร. 1150 หรือว่าคลิกเข้าไปที่ www.pizzahut.co.th เพื่อดูหน้าตากันก่อนก็ได้

2552/03/05

ร้านอาหารเวียดนาม ญวนญี

ร้านอาหารเวียดนามที่มีชื่อเก๋ๆ สะดุดตาว่า "ญวนญี" ที่ เห็นแค่ชื่อร้าน ก็ทำให้เรารีบตรงรี่เข้าร้านนี้ เพื่อเข้าไปลองลิ้มกินอาหารเวียดนามของที่นี่ว่าจะมีรสชาติเป็นเช่นไร จะถูกปากโดนใจแค่ไหน

แหนมเนือง (139 บาท) มากินเป็นจานแรก แหนมเนืองถูกเสิร์ฟมาครบเซ็ท มีความโดดเด่นอยู่ตรงหมูแหนมเนือง ที่เป็นหมูย่างสูตรพิเศษของทางร้าน ห่อผักสดๆ กับแผ่นแป้งนุ่มๆ ใส่หมูย่างลงไป ใส่กล้วยดิบ แตงกวา กระเทียม มะม่วง พริกกะเหรี่ยง แล้วก็ราดด้วยน้ำจิ้มแหนมเนืองสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านที่ใส่ถั่วและพริกตำ ห่อม้วนเป็นคำ เคี้ยวกร้วมคำโตเต็มปากเต็มคำรสชาติแหนมเนืองรสดี แกล้มด้วยผักสดๆ สารพัดอย่างถูกปากโดนใจ
ขนมเบื้องญวน (100 บาท) ขนมเบื้องญวนของที่นี่สีเหลืองนวลแผ่นใหญ่ชวนกิน แผ่นแป้งนั้นบางกรอบกินเข้ากันกับไส้ข้างใน ที่เป็นไส้หมูกับกุ้งผัดกับหัวไชโป้ ถั่วงอก และโรยหน้าด้วยแครอท กับถั่วลิสง กินขนมเบื้องญวนแป้งบางกรอบมากๆ รสชาติกลมกลึงเข้ากับไส้ขนมเบื้องรสกลมกล่อม และมีน้ำจิ้มแดงโรยถั่ว และน้ำจิ้มอาจาดมาให้กินคู่ช่วยเพิ่มรสชาติ

กุ้งพันอ้อย (120 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ถ้ากินอาหารเวียดนามแล้วไม่สั่งมากินเห็นจะไม่ได้ แถมกุ้งพันอ้อยที่นี่ชิ้นโตน่ากิน ทางร้านเน้นเนื้อกุ้งขาวนำมาปรุงรสชาติตามสูตรเด็ด แล้วก็นำมาห่อม้วนกับอ้อยสด แล้วเอาไปนึ่งจนกุ้งสุกและความหวานของอ้อยออกมา กินแล้วต้องบอกว่ากุ้งเนื้อนุ่มได้รสชาติที่ดีเจือความหวานจากอ้อย แล้วก็ยังมีเส้นหมี่ที่ปรุงรสชาติมาให้ให้กินแนมกับกุ้งพันอ้อย พร้อมมีน้ำจิ้มแดงโรยถั่วและอาจาดเป็นน้ำจิ้ม

ปีกไก่ทอดน้ำปลา (65 บาท) เป็นเมนูกินเล่นที่ขายดี เพราะทางร้านเลือกปีกไก่กลางมาหมักตามสูตรเด็ด แล้วก็ทอดจนไก่สุกเหลืองชวนกิน ฉีกปีกไก่หนังบางกรอบเนื้อในนุ่มออกรสเค็มกำลังดี แถมยังมีน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดมาให้จิ้มกินเพิ่มรสชาติอีกด้วย

จิ้มจุ่ม (250 บาท) มาเป็นชุดใหญ่ครบเซ็ท มีทั้งเนื้อหมู ตับ กุ้ง วุ้นเส้น ไข่ไก่ และผักสดสารพัด ทีเด็ดจิ้มจุ่มของที่นี่อยู่ที่น้ำซุปจิ้มจุ่มนี่แหละ เป็นน้ำซุปกระดูกหมูต้มรวมมากับเครื่องสมุนไพรไทย กินจิ้มจุ่มใส่เนื้อสัตว์ ใส่ผักลงไปจุ่ม อร่อยถูกปาก โดยเฉพาะตอนได้ซดน้ำซุปร้อนๆ ที่หอมหวานเครื่องสมุนไพร มันช่างชุ่มชื่นโล่งคอได้ใจ อ้อเกือบลืมไปน้ำจิ้มที่เอาไว้กินกับจิ้มจุ่มของที่นี่ก็รสเด็ด เป็นน้ำจิ้มแจ่ว ใส่หอมแดง ข้าวคั่ว และผักชีฝรั่งหอมๆ

กล้วยหอมทอด (85 บาท) เป็นกล้วยหอมชุบแป้งที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษทอดจนเหลืองกรอบ โรยด้วยน้ำตาลไอซิ่ง กินตอนร้อนๆ แป้งข้างนอกกรอบแต่เนื้อในนุ่มหวานกล้วยหอม และมีน้ำผึ้งมาให้ราดกินคู่เพิ่มความหวาน แถมยังมีวิปปิ้งครีมราดช็อคโกแลต และผลไม้อย่างกีวี แอปเปิ้ล และองุ่นแดงนอกเสิร์ฟมาให้กินเคียงกันด้วย


ร้าน “ญวนญี” ตั้งอยู่ที่ 26/14 ม. 4 ถ.นครอินทร์ ต. ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากทางบิ๊กซีวงศ์สว่างให้ขับมาตรงแยกติวานนท์ พอถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ถ.นครอินทร์ (ถ.พระราม 5 ตัดใหม่) ขับตรงมาจะเห็นร้านญวนญีอยู่ขวามือ ให้ไปกลับรถที่ใต้สะพาน แล้ววิ่งตรงมาก็จะเห็นร้านอยู่ริมถนนทางซ้ายมือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน 11.00-24.00 น. ถ้ามาศุกร์-อาทิตย์ ควรโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี และที่นี่รับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร. 0-2966-7133, 08-6671-2358 และยังมีอีก 1 สาขาที่ราชพฤกษ์ (สโมสรหมู่บ้านเบญญาภา) โทร. 0-2459-4616
ที่มา ผู้จัดการออนไลน์

2552/03/01

ร้านอาหาร 29 สเต็ก

ร้าน "29 สเต็ก" ซึ่งเป็นร้านของเพื่อนพันธมิตรนครปฐม ที่ชื่อว่า จิณต์ขจี จิราพัชญ์หิรัญ แล้วล่ะก็เป็นได้สมใจปากกันทุกคน เพราะที่นี่มีอาหารบริการแบบหลากหลาย มีทั้งอาหารไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น หรืออาหารอีสานรสแซบ มารวมตัวกันอยู่ในที่เดียว
จานแรกสั่งอาหารฝรั่งเป็นสเต็กตามชื่อร้าน คือ สเต็กปลาซอสมะนาว (109 บาท) เป็นปลากะพงขาวแล่เอาแต่เนื้อ ชุบแป้งและเกล็ดขนมปังแล้วทอดจนเหลืองกรอบ ราดด้วยซอสมะนาวสูตรพิเศษของทางร้าน เสิร์ฟพร้อมสลัดผักและขนมปัง ชิมเนื้อสเต็กปลากรอบนอกเนื้อในนุ่ม ชุ่มน้ำซอสออกรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อม แกล้มด้วยสลัดผักสดกรอบ


ปูนิ่มผัดพริกไทยดำ (180 บาท) เป็นปูนิ่มที่นำไปคลุกแป้งทอดกรอบ แล้วนำมาผัดใส่พริกหวาน แครอท กระเทียม และเครื่องพริกไทยดำ กินปูนิ่มกรอบนอกเนื้อในนุ่ม ซึมถึงเครื่องพริกไทยดำเข้มข้นหอมๆ

ส้มตำปูม้า (80 บาท) จานเด็ดของร้านที่ใครไปใครมาก็ต้องสั่งมาชิม จานนี้พิเศษอยู่ที่ปูม้าดอง ที่คัดเลือกมาเป็นพิเศษส่งตรงจากแม่กลอง นำมาดองน้ำปลา ตำมากับส้มตำที่มีมะละกอและแครอทกรอบๆ กินส้มตำปูม้าสดรสชาติครบรสจัดจ้านถึงใจ

ต้มแซ่บเอ็นหมู (149 บาท) มาซดน้ำให้คล่องคอ ทางร้านเลือกเอ็นหมูอย่างดี นำมาต้มกับเครื่องสมุนไพรทั้งข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใส่เห็ดนางฟ้า และเห็ดฟาง ปรุงรสออกเปรี้ยวนำ เอ็นหมูเคี้ยวนุ่มลื่นกรุบๆ ซดน้ำซุปรสกลมกล่อมชื่นใจ

ไก่ตะเกียบ (50 บาท) ส้มตำผลไม้ (45 บาท) ข้าวแกงกะหรี่ไก่ญี่ปุ่น (89 บาท) ข้าวหน้าปลาแซลมอน (89 บาท) สลัดสี่สหาย (139 บาท) ทีโบนสเต็ก (259 บาท) ฯลฯ เอาเป็นว่าหากใครอยากจะลองลิ้มชิมรสอาหารหลายสไตล์ในเวลาเดียวกัน ก็แวะมาอิ่มกันได้ที่ร้าน "29 สเต็ก" แห่งนี้


ร้าน "29 สเต็ก" ตั้ง อยู่ที่ 203/4 ถ.ราชมรรคา ต.สนามจันทร์ อ.เมือง จ.นครปฐม การเดินทางจากกทม.มุ่งตรงมายัง จ.นครปฐม ใช้เส้นทางเพชรเกษมเลี่ยงเมือง วิ่งจนมาถึงสี่แยกไฟแดงพระราชวังสนามจันทร์ แล้วเลี้ยวขวาเข้ามาประมาณ 1 กม. จะเจอสามแยกที่มีเกาะกลาง (ก่อนถึงไฟแดงสี่แยก ม.ศิลปากร) ให้เลี้ยวขวาตรงสามแยกนี้เพื่อเข้า ถ.ราชมรรคา ตรงมาประมาณ 200 ม. ก็จะเห็นร้าน 29 สเต็ก เป็นตึกแถวอยู่ขวามือ มีที่จอดรถด้านข้างและด้านหลังร้าน เปิดทุกวัน (ปิดทุกวันที่ 14 ของเดือน) เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 08-1820-1443, 0-3427-3359


ที่มา ผู้จัดการออนไลน์